สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
12 ก.พ. 60 20:03:45 น.
#พระนามเต็ม
*จารึกในพระสุพรรณบัฏ(แผ่นทองคำ)
- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สุขุมธรรมวิธานธำรง สกลมหาสังฆปริณายก
ตรีปิฎกธราจารย อัมพราภิธานสังฆวิสุต
ปาพจนุตตมสาสนโสภณ
กิตตินิรมลคุรุฐานียบัณฑิต
วชิราลงกรณนริศรปสันนาภิสิตประกาศ
วิสารทนาถธรรมฑูตาภิวุฒ
ทศมินทรสมมุติปฐมสกลคณาธิเบศร
ปวิธเนตโยภาสวาสนวงศวิวัฒ
พุทธบริษัทคารวสถาน
วิบูลสีลสมาจารย์วัตรวิปัสสนสุนทร
ชินวรมหามุนีวงศานุศิษฏ
บวรธรรมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช.
#แปลว่า : สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
ผู้มีญาณสืบมาแต่วงศ์พระอริยเจ้า
ทรงเป็นผู้มีธรรมวิธีอันละเอียดอ่อน
ทรงเป็นผู้นำพระสงฆ์หมู่ใหญ่ทั้งปวง
ทรงเป็นอาจารย์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระปริยัติธรรม คือ พระไตรปิฎก ปรากฎนามฉายาในทางสงฆ์ว่าอัมพะโร ทรงงดงามในพระศาสนาด้วยทรงพระปรีชากว้างขวางในพระอุดมปาพจน์คือพระธรรมวินัย
ทรงดำรงค์พระเกียรติโดยปราศจากมลทิน และทรงเป็นครู
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาด้วยเหตุที่ทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใส
ทรงเป็นที่พึงผู้แกล้วกล้าและมีพระปรีชาฉลาดเฉลียว
ทรงเป็นผู้ยังความเจริญแก่กิจการพระธรรมฑูต
ทรงเป็นใหญ่ในสงฆ์ทั้งปวง และพระองค์แรกในรัชกาลที่ 10
ทรงยังแสงสว่างแห่งแบบอย่างอันดีงามให้บังเกิด โดยเจริญรอยตามสมเด็จพระอุปัชณายะคือสมเด็จพระสังฆราชวาสนมหาเถร
ทรงเป็นที่เคารพของพุทธบริษัท
ทรงงดงามในพระวิปัสนาธุระ
ทรงพระศีลาจารวัตรอันไพบูลย์
ทรงเป็นอนุศิษย์ผู้สืบวงศ์สมณะมาแต่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
ทรงเป็นเจ้าผู้ประเสริฐในทางธรรม
ทรงเป็นราชาแห่งหมู่สงฆ์
*****************************************
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวร วิหาร นามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย เกิดวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ต.บางป่า อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพ.ศ. 2480 ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีพระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมาได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 ณ พัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ เคยไปอยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติ ต.พงสวาย เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2483 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี จากนั้น พ.ศ. 2484 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโทและ พ.ศ.2486 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เมื่อพ.ศ. 2488 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
เมื่อ พ.ศ. 2490 ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยสมเด็จพระ พุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระจินดากรมุนี นำมาฝากกับ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สกลมหาสังฆปริณายก
ภายหลังอุปสมบท เมื่อ พ.ศ. 2491 ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จน พ.ศ. 2491 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และพ.ศ. 2493 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
ต่อมาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นนักศึกษา รุ่นที่ 5 จบ ศาสนศาสตรบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ.2500 และได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2512 ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ปี พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์
ปี พ.ศ. 2553 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ
(ข่าวจาก facebook)